Siam-Accounting- บริษัททั่วไป จะเสียภาษีกี่เปอร์เซ็นต์ ของกำไรสุทธิ

เปอร์เซ็นต์ของภาษีที่บริษัททั่วไปต้องเสียจะขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดภาษีในแต่ละประเทศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ ซึ่งแต่ละประเทศอาจกำหนดอัตราภาษีต่างกันไป นอกจากนี้ อัตราภาษีของบริษัทยังขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจการ เช่น อัตราภาษีของบริษัทที่มีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาอาจต่างกันจากบริษัทที่มีกิจการแต่ละประเภท

บริษัททั่วไปในประเทศไทย จะเสียภาษีกี่เปอร์เซ็นต์ ของกำไรสุทธิ

 อัตราภาษีเงินได้สำหรับภาษีบริษัททั่วไป (Corporate Income Tax) เป็นอัตรา 20% ของกำไรสุทธิ (Net Profit) ซึ่งเป็นรายได้รวมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคมของปีภาษี โดยกำไรสุทธิจะได้รับการคำนวณโดยการหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของบริษัท และได้รวมรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกันเป็นรายปี

นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมายภาษีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การลงทุนในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน การสนับสนุนการศึกษา หรือการบริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์ เป็นต้น

แต่การเสียภาษีของบริษัทยังได้รับการคำนวณตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และมีข้อกำหนดและเงื่อนไขพิเศษในกรณีบริษัทที่มีการซื้อขายสินค้าและบริการกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการเสียภาษีของบริษัทในประเทศไทยได้ 

ยกตัวอย่างการเก็บภาษีของ สหรัฐอเมริกา 

ตัวอย่างเช่นในสหรัฐอเมริกาอัตราภาษีนิติบุคคลสำหรับวัตถุประสงค์ด้านภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลางเป็นอัตราคงที่ 21% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษีสำหรับ C-corporations อย่างไรก็ตามอัตราภาษีที่มีประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่นการหักเงินเครดิตและสิ่งจูงใจภาษีอื่น ๆ ที่มีอยู่

ในประเทศอื่น ๆ อัตราภาษีนิติบุคคลอาจแตกต่างกันและบางประเทศอาจมีระบบการเรียกเก็บภาษีแบบใหม่ที่ส่ง SMS หรือ Email เข้ามาให้แบบส่วนตัวเฉพาะรายบุคคล 

สิ่งสำคัญที่ จะต้องทราบว่ากำไรสุทธิถูกคำนวณหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่นเงินเดือนค่าเช่าและค่าใช้จ่ายทางธุรกิจอื่น ๆ จากรายได้รวม นอกจากนี้กฎหมายและข้อบังคับภาษีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้หลายบริษัทเลือกตั้งแต่ขนาดกลาง ไปจนถึงใหญ่ เลือกที่จะจ้างพนังงานบัญชีไว้ในบริษัทแบบเฉพาะ 

ดังนั้น สำหรับใครที่พึ่งเปิดบริษัท ไม่มีความรู้เรื่องของภาษีเลย หรืออยู่ในช่วงที่ต้องการจะกระจายคลังสินค้าออกนอกประเทศด้วย ยิ่งต้องหาที่ปรึกษาโดยเฉพาะทาง เราแนะนำว่าควรหาที่ปรึกษาหรือเลือกคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือนักบัญชี อาจจะจ้างแบบรายเดือน หรือว่ารับเข้ามาเป็นฝ่ายบัญชีโดยเฉพาะยิ่งดี แต่ถ้ากำไรบังน้อยไม่สามารถรับนักบัญชีเข้ามาได้ แนะนำให้จ้างแบบออนไลน์ช่วยได้เยอะเลย 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *